เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง 21 ต.ค.64 เวลา 08.25 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม 15 จังหวัด โดยร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17 – 19 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 10 จังหวัด 40 อำเภอ 138 ตำบล 612 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,468 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ นครปฐม และสระแก้ว ส่วนอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ต.ค. 64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก 6 จังหวัด 12 อำเภอ 33 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,326 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด (ลพบุรี และปราจีนบุรี) ขณะที่อิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 64 ทำให้เกิดอุทกภัย รวม 33 จังหวัด รวม 226 อำเภอ 1,201 ตำบล 8,220 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 334,179 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 26 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 7 จังหวัด (ขอนแก่น มหาสารคาม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี) ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17 – 19 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ศรีสะเกษ สระแก้ว ชลบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และกาญจนบุรี รวม 40 อำเภอ 138 ตำบล 612 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,468 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด รวม 32 อำเภอ 127 ตำบล 574 หมู่บ้าน 11,609 ครัวเรือน ดังนี้
1. ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคอนสาร อำเภอบ้านเขว้า อำเภอบ้านแท่น อำเภอเทพสถิต อำเภอจัตุรัส อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอเนินสง่า และอำเภอหนองบัวระเหว ระดับน้ำทรงตัว
2. นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง อำเภอสีคิ้ว อำเภอพิมาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอปักธงชัย อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอคง อำเภอเมืองยาง อำเภอประทาย และโนนไทย ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
3. บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนางรอง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ระดับน้ำลดลง
4. ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูสิงห์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอขุขันธ์ ระดับน้ำทรงตัว
5. นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี และอำเภอสามพราน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6. สระแก้ว น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว และอำเภอวัฒนานคร ระดับน้ำลดลง
ส่วนอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ซึ่งได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความอากาศต่ำ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 15 -17 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก รวม 12 อำเภอ 33 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,326 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด 7 อำเภอ 19 ตำบล 78 หมู่บ้าน 2,216 ครัวเรือน ดังนี้
1. ลพบุรี น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกสำโรง อำเภอชัยบาดาล อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอลำสนธิ
ระดับน้ำลดลง
2. ปราจีนบุรี น้ำป่าไหลหลากและน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม และอำเภอกบินทร์บุรี ระดับน้ำลดลง
ในส่วนของผลกระทบจากพายุ “เตี้ยนหมู่” ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 2564 ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 33 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 226 อำเภอ 1,201 ตำบล 8,220 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 334,179 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย (ลพบุรี 11 ราย เพชรบูรณ์ 2 ราย ชัยนาท 1 ราย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลาย เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง